Gulf War syndrome
ผลกระทบทางทหารต่อสุขภาพจากการใช้กระสุนยูเรเนียมจำนวนมากในสงครามและต่อเนื่อง
กระสุนยูเรเนียม (Depleted uranium) ถูกใช้ในสงครามอ่าวเป็นกระสุนเจาะเกราะพลังงานจลล์
ของรถถังและกระสุนปืนใหญ่ขนาด 20-30 ม.ม. การใช้กระสุนแบบนี้ในสงครามอ่าวครั้งแรก
ถูกกล่าวว่าเป็นผลทำให้สุขภาพของทหารผ่านศึกและพลเรือนได้รับผลกระทบ
เกิดโรคใหม่ต่อทหารที่เรียกว่า กัลฟท์วอร์ซินโดรม (Gulf War syndrome)
อาการหลักๆ ของโรคนี้เหมือน โรคที่เกิดหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
แต่แสดงอาการแตกต่างกัน เช่น มีความเครียดสูงหลังกลับจากสงคราม เป็นโรคผิวหนัง กล้ามเนื้ออ่อนแรง
หายใจติดขัด โรคไข้หวัดใหญ่เรื้อรัง อาการเหล่านี้เป็นผลทั้งทางการได้รับสารเคมี
และสภาวะการเครียดในสงครามการรักษาค่อนข้างยากเพราะเป็นตัวแปร ด้านจิตใจ ที่ส่งผลต่อร่างกาย
อีกโรคหนึ่งที่ใกล้เคียงกันคือ
PTSD พบมากในทหารผ่านศึกเวียตนาม Posttraumatic Stress Disorder
ชื่อภาษาไทยยังไม่มี อาจจะเรียกให้เข้าใจง่ายๆว่า “โรควิตกกังวลหลังเหตุการณ์รุนแรง”
อาการของโรคนี้จะแต่งต่างกัน แต่เน้นไปที่อารมณ์ และแสดงออกทางความรุนแรง และการซ่าตัวตาย
ทหารเวียดนามเสียชีวิตในสงคราม 58,000คน แต่หลังจากกลับบ้านแล้ว
ทหารผ่านศึกเหล่านั้นฆ่าตัวตายไปแล้วกว่า 1 แสนราย มากกว่าตายในสงครามถึง 2 เท่า
กองทัพ ชำนาญการทำพลเรือนให้เป็นทหาร
แต่
กองทัพ ล้มเหลว การที่ทำให้ทหารเป็นพลเรือน